วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เ ชื่ อ ไ ห ม โ ร ค เ ก๊ า ท์ ห า ย ไ ด้ ด้ ว ย ข อ ง พื้ น บ้ า น...




       สมุนไพรไทยๆหลายชนิด สามารถรักษาโรคเก๊าท์ ล้างกรดยูริก หาง่าย ทำง่าย กินง่าย ราคาถูก ไม่ต้องทรมานกับอาการปวด และ ไม่ต้องเสียเงินซื้อยาให้มีสารเคมีตกค้างที่ไต ตับจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก วันนี้รวบรวมมาให้ท่านเลือกตามสะดวก อดทนดื่มหน่อย รับรองได้ผลจริงไม่มีพลาด


* สู ต ร 1 * น้ำมะกรูด ผสมน้ำผึ้งนิดหน่อย แล้วเอาน้ำอุ่นเติมใส่ไม่ต้องมาก หรือน้ำเย็น ผสมแล้วนำมาดื่ม ใช้เวลาประมาณเดือนครึ่ง ดื่มทุกวันช่วยบรรเทาอาการ


* สู ต ร 2 ใบรางจืด 5 ใบ + ใบเตย 5 ใบ ต้มน้ำ 2 ลิตร ดื่มทุกวัน จะช่วยลดการเป็นเก๊าต์ – รูมาตอยด์ สูตรนี้ลดหินปูนได้ดีที่สุด


สู ต ร 3 * ใบยอ 4 ใบ + มะตูมแห้ง 1 แว่นย่างไฟให้เหลือง นำมาต้มกับน้ำ 3 ขวด เคี่ยวให้เหลือ 2 ขวด ดื่มกินต่างน้ำทุกวันจนกว่าจะหาย


* สู ต ร 4 * ใบมะรุมสดๆ 3 ยอด ต้มน้ำ 2 ลิตร ดื่มทุกวัน ลดอาการเก๊าต์ได้


* สู ต ร 5 * มะละกอดิบ 1 ลูก เอาเมล็ดออก ไม่ต้องปลอกเปลือก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นทอนๆ ต้มน้ำ 3 ลิตร ดื่มทุกวันอาการปวดลดลงจนหาย


@ อ า ห า ร ที่ ช่ ว ย ล ด อ า ก า ร เ ก๊ า ท์ @

1. ใบย่านางสดวันละ 10-20 ใบ ตามน้ำหนักตัวคั้นน้ำดื่ม ดื่มบ่อย ๆ แต่ไม่จำเป็นต้องทุกวัน
2. ใบรางจืด + ใบเตย ต้มน้ำดื่มประจำ
3. ใบมะรุมสด ลวกจิ้มน้ำพริก
4. ลูกเดือยต้มกับข้าวเจ้า แบบข้าวต้ม ทานบ่อย ๆ

ด้วยความปรารถนาดีจากชมรมล้างพิษพิชิตโรค ล้างพิษตับ


‪#‎ค้นหาการเดินทางจังหวัดแพร่‬ ด้วย ‪#‎แผนที่การเดินทางจังหวัดแพร่‬ คลิ๊ก http://bit.ly/ท่องเที่ยวแพร่

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กินเม็ดบัวป้องกันมะเร็งตับ



แหล่งโปรตีนเช่นเดียวกับการกินถั่วเหลือง ที่ธัญพืชพื้นบ้านชนิดนี้สร้างความฮือฮาให้ชาวโลกคือ มีการวิจัยพบว่า เม็ดบัวมีสารแอนติออกซิแดนต์ในปริมาณสูง ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น ชะลอการเสื่อมของอวัยวะและผิวพรรณ ป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ

เม็ดบัวมีประโยชน์ทางยาสูงมาก แพทย์แผนไทย แนะนำว่า ช่วยบำรุงกำลัง แก้โรคข้อต่างๆ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ส่วนแพทย์แผนจีนบอกว่า ช่วยบำรุงไต ม้าม หัวใจ และตับซึ่งตรงกับงานวิจัยในต่างประเทศที่ระบุว่า 

“สารแอนติออกซิแดนต์จะช่วยปกป้องและบำรุงตับ โดยเฉพาะตับที่ต้องขับสารแอฟลาท็อกซิน(Aflatoxin) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งตับออกจากร่างกาย การกินเม็ดบัวจึงสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งได้”

เม็ดบัวไทย-จีน ความเหมือนที่แตกต่าง

การเลือกกิน เม็ดบัวส่วนใหญ่ที่เราเห็นทั่วไป จะเป็นสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีนซึ่งจะมีเมล็ดขนาดใหญ่ ผ่านการกะเทาะเปลือก ดึงดีบัว(ต้นอ่อนที่ฝังอยู่กลางเมล็ดมีสีเขียวเข้ม)ออก และอบแห้งแล้ว 

ส่วนเม็ดบัวไทยนั้นไม่ค่อยพบวางจำหน่ายในท้องตลาด เนื่องจากมีเมล็ดเล็ก จึงไม่เป็นที่นิยม แต่จากผลการวิจัยของ อาจารย์ปริญดา ที่ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์ในเม็ดบัวไทยและจีนพบว่า เม็ดบัวไทยมีปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์สูงกว่าเม็ดบัวจีน 5-6 เท่า

อาจารย์ปริญดาจึงแนะนำว่า ถ้าต้องการให้ร่างกายได้รับสารแอนติออกซิแดนต์ปริมาณสูงควรเลือกกินเม็ดบัวไทยดีกว่า โดยเฉพาะเม็ดบัวไทยสด

วิธีกินคือ ลอกเปลือกออกจากเมล็ด โดยไม่ดึงเยื่อหุ้มเมล็ดและดีบัวออก กินสดๆทั้งเมล็ด จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านมะเร็งซึ่งอยู่บริเวณเยื่อหุ้มเมล็ด และดีบัวในปริมาณสูง

ส่วนชนิดอบแห้งนั้น เรานำมาทำอาหารคาวหวานได้หลากหลาย ที่คุ้นเคยกันดี คือ น้ำอาร์ซี เม็ดบัวต้มน้ำตาลทรายแดง ผสมในเต้าฮวย หรือเต้าทึง ข้าวอบใบบัว เป็นต้น

ส่วนเคล็ดลับการเลือกซื้อให้ได้ของสดใหม่ คุณภาพดีมีดังนี้ค่ะ 

ชนิดอบแห้ง 
1. ควรเลือกเมล็ดที่มีสีเหลืองนวล ถ้ามีสีเหลืองเข้ม แสดงว่าเป็นเม็ดบัวเก่าที่เก็บไว้นานแล้ว เมล็ดไม่แตกหัก และไม่มีฝุ่นละอองปนเปื้อน
2. ขั้วเมล็ดไม่ดำคล้ำ เพราะจะเป็นเมล็ดที่เก็บไว้นานแล้ว
3. ไม่มีกลิ่นสาบหรือเหม็นหื่น 

ชนิดฝักสด
เลือกฝักที่มีเมล็ดขนาดใหญ่ สีเขียวอ่อน จะได้เม็ดบัวที่มีเนื้อกรอบ หวานกำลังดี คราวนี้ถ้าเจอฝักบัวสดในตลาดอย่าลืมซื้อติดไม้ติดมือมาคนละสองสามกำนะคะ

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คุณค่าของ...ลูกเกด



ผลไม้อบแห้งที่คุ้นเคยที่เป็นที่นิยมและรู้จักของคนทั่วโลกด้วยรสชาติหอม หวาน คงไม่มีอะไรเทียบเท่า “ลูกเกด”

ลูกเกด คือ องุ่นพันธุ์ raisin ที่ปลูกเพื่อใช้ผลทำลูกเกดไม่มีเมล็ด รสหวานนำไปตากแดด ซึ่งจะได้ลูกเกดที่มีสีดำ หรือทำการอบแห้งด้วยสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะได้ลูกเกดสีทอง

รู้หรือไม่ว่า อาหารคาว หวานที่มีส่วนผสมจากลูกเกดหลายเมนูที่หลายคนชื่นชอบนั้น ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยลิ้น ทว่าแฝงด้วยคุณค่าทางโภชนาการต่อสุขภาพอีกด้วย 

ริชาร์ด ลิว ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการค้า คณะกรรมการส่งเสริมการส่งออกลูกเกดแคลิฟอร์เนียในประเทศไทย อธิบายว่า ในลูกเกดไม่มีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอล มีสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ ยับยั้งการเกิดโรคความเสื่อมทั้งหลาย มีธาตุฟอสฟอรัสและแคลเซียม สูง แถมยังมีแร่ธาตุและวิตามินที่ดีต่อสุขภาพคือ มีวิตามิน A วิตามิน C ธาตุเหล็ก แคลเซียม โปรแตสเซียม แมกนีเซียม ไนอาซิน โฟลาซิน และไฟเบอร์สูง ช่วยในการขับถ่าย

ความหวานในลูกเกด เกิดจากน้ำตาลฟรุกโตสซึ่งเป็นน้ำตาลเชิงเดี่ยว ที่สามารถดูดซึมได้ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยในระบบทางเดินอาหาร เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เด็ก และบุคคลทุกวัย ผู้รักสุขภาพสามารถนำลูกเกดไปปรุงเป็นอาหารเพื่อคุมน้ำหนักเพราะจะไปเพิ่มธาตุเหล็กและช่วยในการส่งออกซิเจนไปตามกระแสเลือดในผู้ที่ชอบออกกำลังกาย

จากงานวิจัยของ วิทยาลัย ทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย Illinois แห่ง Chicago, USA. พบว่า พฤกษเคมี (Phytochemical) ในลูกเกดสามารถใช้ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากบางสายพันธุ์ ที่ก่อให้เกิดโรคในช่องปากได้ ด้วยเหตุนี้เมื่อใส่ลูกเกดในขนมหวานจึงช่วยยืดอายุของขนมหวานนั้นได้มากกว่าปกติ ส่วนตำราอายุรเวทของอินเดียยกย่องว่าลูกเกดสีดำ มีสรรพคุณบำรุงร่างกายโดยเฉพาะบำรุงเลือดและแก้ไอแก้หอบหืดได้ดี

สำหรับคำแนะนำในการเลือกซื้อ คือ ควรเลือกลูกเกดที่มีสีและกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ไร้สารปรุงแต่ง และตากแห้งโดยแสงแดดจากธรรมชาติรสสัมผัสนุ่มนวล ให้ความรู้สึกหนุบหนับเวลาเคี้ยว และไม่มีเมล็ด มีความชื้นต่ำ ทำให้คงคุณค่าได้นาน ไม่เสียง่าย ปลอดจากสารเคมีใดๆ ในทุกขั้นตอนการผลิตมีระบบการเก็บเกี่ยวที่มีคุณภาพจากไร่ที่มีมาตรฐานสูง อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและมีระบบขนส่งที่ปลอดภัยทุกขั้นตอน

ใครที่อยากจะเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและไฟเบอร์ให้กับอาหารจานโปรด เพียงเติมลูกเกดลงไป ไม่ว่าจะเป็นอาหารหวาน อาหารคาว หรือจะรับประทานแทนขนมขบเคี้ยว

ลูกเกดเมนูอาหารปรับความดัน 

อาหารว่างที่รับประทานง่าย หาซื้อได้ง่าย และยังรสชาติอร่อยนั่นก็คือลูกเกดนั่นเอง ถ้าหากท่านรับประทานลูกเกดเป็นประจำ รู้มั๊ยว่าท่านสามารถลดโอกาสการเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ถึง 33% โรคความดันโลหิตสูง (Prehypertension) ถูกกำหนดไว้ว่ามีความดัน systolic (ความดันโลหิตตัวบน) 120-139 มิลลิเมตรปรอท (มม. ปรอท) และ (ความดันโลหิตตัวล่าง) diastolic 80-89 มิลลิเมตรปรอท

การศึกษาในเรื่องนี้เกิดจากทีมงานนักวิจัยของวิทยาลัย American College of Cardiology ในเดือนมกราคมปี 2012 ที่ผ่านมาทำการวิจัยจากกลุ่มอาสาสมัครในท้องถิ่น 50 ราย ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง โดยการเปรียบเทียบการรับประทานของว่างตามปกติกับลูกเกด เช่น คุ้กกี้ และขนมทั่วไปโดยกำหนดค่าแคลอรี่ให้เท่าๆกับลูกเกดที่รับประทาน และรับประทานวันละสามครั้งเป็นเวลา 20 สัปดาห์

ผลการศึกษาพบว่า systolic (ความดันโลหิตตัวบน) และ diastolic (ความดันโลหิตตัวล่าง) ของผู้ที่รับประทานอาหารตามปกติ ไม่มีการลดลงแต่อย่างใด แต่ผู้ที่รับประทานลูกเกดมีความดันโลหิตดีขึ้นมาก

ลูกเกดมีโปแตสเซียมสูงช่วยในการปรับความดันโลหิตในร่างกาย และยังมีใยอาหารที่เป็นประโยชน์สำหรับระบบขับถ่าย การศึกษานี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเรื่องโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตต่อไป ทีมนักวิจัยกล่าวทิ้งท้าย..

ขอบคุณแหล่งข้อมุลจาก: American College of Cardiology's

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ผลไม้บำรุงเลือด “บำรุงสุขภาพ”


1. ทับทิม

ผลการวิจัยในสหรัฐพบว่า ทับทิมสามารถรักษาผู้ป่วยเบาหวานได้ด้วยคุณสมบัติช่วยกักเก็บเซลล์เม็ดเลือดแดง โดยให้ผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 10 คนดื่มน้ำทับทิมคั้นสดวันละ 1 แก้ว (6 ออนซ์) เป็นเวลา 3 เดือน ผลคือร่างกายมีระดับอินซูลินในกระแสเลือดลดลง ระบบไหลเวียนโลหิตเป็นปกติขึ้น อาการมึนงง อ่อนเพลีย และผมร่วงลดลง อีกทั้งผิวพรรณก็สดใสขึ้นกว่าเดิม



2. แก้วมังกร

อุดมด้วยโปรตีนจึงช่วยเติมร่องรอยผิวให้ดูเรียบตึง ผลการวิจัยพบว่า แก้วมังกรเนื้อแดงดีต่อระบบไหลเวียนโลหิตและมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือด นอกจากนี้ไฟเบอร์ในผลแก้วมังกรยังช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงบริเวณช่องคลอด บรรเทาอาการตกขาวที่ผิดปกติ (มีสีเหลืองปนหนอง ปนเลือดและมีกลิ่นเหม็น)



3. สตรอว์เบอร์รี่

ด้วยคุณสมบัติของวิตามินซีที่อุดมอยู่ในผลสตรอว์เบอร์รีช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง เมล็ดเล็กๆ ที่อยู่ในเนื้อสตรอว์เบอร์รีช่วยลำเลียงออกซิเจนในกระบวนการขจัดเลือดเสีย จากผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Chemistry พบว่า อาสาสมัครผู้บริโภคสตรอว์เบอร์รีสดทุกวันประมาณ 2 ถ้วยตวงติดต่อกันนาน 1 เดือน มีผลการตรวจเลือดพบว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นอย่างเป็นปกติมากขึ้นคือ 4, 8, 12, 16 เซลล์จึงส่งผลให้ผิวพรรณภายนอกดูเรียบเนียนเปล่งปลั่งขึ้น



4. กล้วย

ด้วยคุณสมบัติของแร่ธาตุแมกนีเซียมที่อุดมอยู่ในกล้วยช่วยบำรุงผิวที่ขาวซีดให้กลับมาเปล่งปลั่งดูมีเลือดฝาด จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน American Journal of Epidemiology เผยว่าการบริโภคกล้วยเป็นประจำทุกวันส่งผลต่อสุขภาพเลือดคือ ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) โดยเฉพาะในเด็กช่วงอายุ 0-2 ปี



5. แตงโม

จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยเนราดาในสหรัฐเผยว่า หากบริโภคแตงโมเพียงครึ่งผลต่อวันดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต เพราะกรดอะมิโนอาร์จีโนน์ (Arginine) ที่ร่างกายเปลี่ยนให้เป็นสารในตริกออกไซด์ (Nitric oxide) ทำให้เลือดสมบูรณ์ขึ้นถึงร้อยละ 22 จึงช่วยป้องกันภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายและภาวะหลอดเลือดแข็งตัว
ไม่ใช่แค่ธาตุเหล็กและโปรตีนเพียงเท่านั้นที่จะช่วยให้อวัยวะภายในของเราผลิตเลือดได้อย่างเป็นปกติ แต่ยังมีวิธีที่ง่ายๆ อีกสองสิ่งคือ การดื่มน้ำเปล่าให้บ่อยครั้งในแต่ละวันซึ่งจะช่วยให้เลือดของเราไม่มีลักษณะข้นเหนียวจนเกินไปด้วย นอกจากนี้ยังต้องทำกายบริหารทุกวันเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนอยู่ตลอด เพียงเท่านี้ก็ช่วยปกป้องร่างกายของเราให้ห่างไกลปัญหาสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้แล้ว




วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

S Vera Aloe Vera Juice ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่มน้ำว่านหางจระเข้


ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มว่านหางจระเข้‬ เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ผ่านการคัดสรร‬สมุนไพรธรรมชาติ



        ว่านหางจระเข้  สายพันธุ์ อโล บาร์บาเดนซิส มิล ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ และ การบำบัดโรคต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ใน วงการแพทย์แผนโบราณ และแพทย์แผนใหม่ ทำให้ว่านหางจระเข้ได้รับการยอมรับใน‬ ประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” มาช้านานว่านหางจระเข้ประกอบด้วย สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด


คุณประโยชน์ของว่านหางจระเข้ต่อส่วนต่างๆ‬ 

กระเพาะ ช่วยสมานแผลในกระเพาะและลำไส้ ลำไส้ปรวนแปร ช่วยควบคุมและฆ่าเชื้อโรค อัน เป็นสาเหตุต้นกำเนิด เบาหวาน ช่วยลดระดับ น้ำตาลในเลือด 

ไต กระตุ้นระบบการทำงานของไต ให้สามารถขับถ่าย ของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ภูมิแพ้ สารมูโคโพลีแซคคาไรด์ มีประสิทธิภาพสูงในการ กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ข้ออักเสบ, ปวดตามข้อ สารในว่านหางจระเข้ ช่วยลดอาการอักเสบ อ่อนเพลีย ว่านหางจระเข้ มีประสิทธิภาพในการเสริมขบวนการเผาผลาญ สารอาหารของร่างกาย (Metabolism) ให้ดียิ่งขึ้น ให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารและเกลือแร่ไปใช้ประโยชน์ ได้ดียิ่งขึ้น

แผลสด, พุพอง ช่วยกระตุ้นระบบการสร้างเนื้อเยื่อ และการไหลเวียนของเส้นเลือดในจุดที่เป็นแผล  ทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน  ทำให้แผลหายได้เร็ว นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่เกิดเป็นแผลเป็น มะเร็ง มีอโลบิซิน และอโลคูติน สามารถระงับและ ยับยั้งการขยายตัวของเชื้อไวรัสของเซลล์มะเร็ง


‪ว่านหางจระเข้เหมาะสำหรับบุคคลดังต่อไปนี้‬

ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือแผล
ในกระเพาะอาหาร รวมถึงผู้ที่ท้องผูก อาหารไม่ย่อย

ผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับยาก โดยจะช่วย
ให้เกิดสภาวะการหลับลึก ให้เกิดการพักผ่อนอย่างแท้จริง

พร้อมปรับสภาวะสมดุลของร่างกาย
ผู้ที่มีแผลในลำไส้ โดยจะช่วยสมานแผลที่ลำไส้เล็ก
ตอนต้น

ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ช่วยทำให้เส้นเลือด
ในสมองมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น

ผู้ที่เป็นโรคหวัด โดยจะเสริมภูมิคุ้มกันต่อต้าน
เชื้อไวรัส ทังยังช่วยฆ่าเชื้อทำให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น

ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ (รับประทานต่อเนื่อง 2-3 เดือน)

ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โดยช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ
และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ผู้ที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเรื่องตับ โดยจะฟื้นฟู
การทำงานของตับ

ผู้ที่เป็นโรคสีดวงทวาร (ใช้ทา)
ผู้ที่เป็นแผลในช่องปากหรือมีแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
โดยจะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและสมานแผล

ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
ในระบบภูมิคุ้มกันเชื้อโรค

ช่วยต้านและยับยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง
และเชื้อไวรัส

ช่วยบำรุงผิวพรรณและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
รวมทั้งลดอาการแพ้ของผิวที่บอบบาง

ผลิตภัณฑ์ ได้รับการรับรองจาก
น.พ สิทธวีร์ เกียร์ติชวนันต์
แพทยศาสตรบัณฑิต สิริราชพยาบาล
เลขที่อ.ย 73-1-05036-2-0009
ราคา 1,250 บาท/750cc

Callcenter : 062 250 5591

Id Line : Success158

Id line@ :
Line shop :
Web :
Web :

tags :
‪#‎ไฟโตวี่‬ ‪#‎phytovy‬ ‪#‎สื่อออนไลน์‬ ‪#‎รายได้เสริม‬
‪#‎VDOMarketing‬ ‪#‎SocialMedia‬ ‪#‎SocialMarketing‬
‪#‎ตลาดออนไลน์‬ ‪#‎สอนออนไลน์‬ ‪#‎DigitalMarket‬
‪#‎ธุรกิจเครือข่าย‬ ‪#‎ทำตลาดผ่านFacebook‬ ‪#‎ธุรกิจออนไลน์‬
‪#‎แนะนำอาชีพ‬ ‪#‎มืออาชีพ‬ ‪#‎บทเรียนออนไลน์‬ ‪#‎ซัคเซสมอร์ส‬
‪#‎success‬ ‪#‎successmore‬ ‪#‎ประสบการณ์‬ ‪#‎โปรโมท‬